การจัดการมรดก
ผู้จัดการมรดก คือบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งโดยศาลเพื่อจัดการทรัพย์มรดก และแบ่งปันให้กับทายาท โดยต้องมีคุณสมบัติที่ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ดังนี้:
- ต้องเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ
- ต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
- ต้องไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
- ต้องไม่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย
ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
- ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน)
- บิดา มารดา
- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
- พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
- ปู่ ย่า ตา ยาย
- ลุง ป้า น้า อา
- คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย
- ผู้ที่เจ้ามรดกแต่งตั้งตามพินัยกรรม
ระยะเวลาในการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกโดยทั่วไปประมาณ 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำร้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศาล
เอกสารที่ต้องเตรียม
- ทะเบียนบ้านของเจ้ามรดก (ผู้ตาย)
- ใบสำคัญการสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
- ใบมรณบัตรของเจ้ามรดก
- บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของทายาททุกคน
- เอกสารใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- สูติบัตรของผู้ร้อง (ถ้ามี)
- เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดก เช่น โฉนดที่ดิน เล่มทะเบียนรถ
- บัญชีเครือญาติ (ทนายดำเนินการทำเอกสารให้)
- หนังสือให้ความยินยอมทายาท (ทนายดำเนินการทำเอกสารให้)
ณ ปัจจุบันนี้สามารถยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกออนไลน์ได้ และสามารถขอศาลไต่สวนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ได้
ดังนั้นไม่ว่าผู้ร้องอยู่ที่ไหนก็สามารถขอศาลไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกออนไลน์ได้
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกอยู่จังหวัดชลบุรี แต่ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเชียงใหม่
ขั้นตอนในการตั้งผู้จัดการมรดก
- ทนายความยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกต่อศาล
- นัดไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
- รอคัดถ่ายคำสั่ง และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดเพื่อจะไปโอนทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันกันระหว่างทายาท
ตัวอย่างคำร้องตั้งผู้จัดการมรดก

ตัวอย่างบัญชีเครือญาติ

หากสนใจให้ดำเนินการตั้งผู้จัดการมรดก โปรดติดต่อ
โทร. 085-3306226 ทนายปิลันธน์
#ทนายความ #จัดการมรดก #ปรึกษาฟรี